บริษัท ซอฟท์เดบู จำกัด ผู้นำเข้าและพัฒนาซอฟท์แวร์ชั้นนำมานานกว่า 19 ปี ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Manage Service Provider)ที่ให้บริการองค์กรต่างๆ ทั้งหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน ได้ถูกประกาศให้เป็น Sole Distributor แห่งประเทศไทยอย่างเป็นทางการจาก JumpCloud เพื่อนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยบุกตลาด Cloud Directory Access Management สำหรับกลุ่มลูกค้า Tech Start up ไปจนถึง องค์การขนาดใหญ่ (Enterprise)
โดย JumpCloud นั้นเป็นบริษัท Enterprise Software จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้มีการก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ 2014 โดยได้มีการพัฒนาโซลูชั่นอย่าง Cloud Directory Management ซึ่งให้บริการในลักษณะของ Software-As-A-Service (SaaS) ด้วย Concept ของ Identity and Access Management (IAM) ที่ผนวกรวมเข้ากับความสามารถในการทำ Device Access Management ทำให้ JumpCloud มีความโดดเด่นในแง่ของ Features การใช้งาน และความสะดวกสบายต่อระบบ Common IT ขององค์กรที่ต้องมีการบริหารจัดการพนักงานเป็นจำนวนมากอีกด้วย
Remote Work ที่กำลังจะกลายเป็น New Normal สำหรับคนไอทียุคใหม่
หากเราจะย้อนกลับไปก่อนช่วง Covid-19 นั้น ประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะทำงานในลักษณะของ Remote Work อยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มีบริษัทสาขาย่อยอยู่หลายๆแห่ง เช่น กลุ่มลูกค้าธนาคาร, ประกันภัย, นิคมอุตสาหกรรม, โรงพยาบาล, Media and Entertainment และ กลุ่ม Retail เป็นต้น ทำให้ลักษณะการทำงานแบบ Remote Work ของ IT เพื่อใช้บริหารจัดการ User มีความจำเป็นอย่างเลี่ยงไม่ได้
นอกจากนี้โดยส่วนใหญ่ กลุ่มลูกค้าองค์ยังคงมีการใช้ระบบ Directory ในองค์กรแบบดั้งเดิมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ On-premise Directory รวมถึงระบบ Centralize Management อื่นๆอีกหลายระบบ เช่น LDAP, Radius, PAM และ SSO เป็นต้น ทำให้การบริหารจัดการ User ในลักษณะของ Common IT และ Remote Work นั้น มีความยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
Single Platform ที่ทำได้ทั้งการทำ Identity, Access และ Device Management
Jumpcloud เป็นลักษณะของ Single Platform ที่เปลี่ยนรูปแบบของการจัดการ Directory จากแบบดั้งเดิม ซึ่งนอกจากจะสามารถสร้าง Directory แบบ Cloud-based หรือ Integrated กับ Directory ที่มีอยู่ในองค์กรได้อย่างง่ายดายนั้น ยังสามารถบริหารจัดการในส่วนของ User Access และ Device ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงอีกด้วย โดยใช้วิธีบริหารจัดการแบบกำหนด Policy-Based, User-Group-Bases และ Conditions Access Policy รวมถึงการสร้างความปลอดภัยของการเข้าถึงข้อมูลแบบ Zero Trusted ให้แก่ User ที่เข้ามาใช้ Resource ดังนี้
Trusted Identities: เพื่อจัดการข้อมูลการระบุตัวตนของผู้ใช้งาน แบบ Single Platform ที่เข้ามาใช้งานทรัพยากรในองค์กร โดยรองรับการใช้งาน MFA, TOTP และยังสามารถ Integrated เข้ากับ 3rd party อย่าง DUO Security, WebAuthn และ Mobile Push ได้
Trusted Devices: สร้าง Trusted Device ผ่าน Device agents and certificates เพื่อเชื่อมโยงกับผู้ใช้งานให้แน่ใจว่ามีสิทธิ์ในการเข้าถึงอุปกรณ์นั้นๆได้
Trusted Networks: สามารถเปิดใช้งาน Network Trusted ทั้งองค์กร เพื่อเพิ่มความมั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานอยู่บนเครือข่ายที่น่าเชื่อถือตาม IP lists เช่น การจำกัดผู้ใช้ไม่ให้เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจากที่อยู่ IP Home Use โดยกำหนดให้ใช้ผ่าน VPN แทน เป็นต้น