ในแต่ละสัปดาห์นวัตกรรม ของCloudflare จะถูกพิจารณาด้านประสิทธิภาพของเครือข่าย และนำไปเปรียบเทียบด้านต่างๆกับคู่แข่งของCloudflare เช่น การเปรียบเทียบความเร็วของเรากับ Reverse Proxies อย่าง Akamai หรือ แพลตฟอร์มที่ให้บริการประมวลผลแบบไร้เซิร์ฟเวอร์ที่เปรียบเทียบกับ Supercloud ของเรา เช่น Fastly กับ AWS
ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเปรียบเทียบกับ Reverse Proxies เจ้าอื่นๆ รวมถึงการอัปเดตผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยบนแอปพลิเคชันกับการบริการ Zscaler และ Netskope ที่เป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Zero Trust ของCloudflare ที่จะช่วยรักษาความปลอดภัยบนแอปพลิเคชันและประสบการณ์อินเทอร์เน็ตออกสู่อินเทอร์เน็ตสาธารณะ ซึ่งจะต่างจาก Reverse Proxy ของเราที่ปกป้องเว็บไซต์ของคุณจากผู้ใช้ภายนอก
ยังแสดงผล การเปรียบเทียบเครือข่ายที่ครอบคลุม สำหรับ Reverse Proxies จากเครือข่าย Last Mile 3,000 แห่งทั่วโลกอีกด้วย Cloudflareได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าการเป็นผู้นำอันดับ 1 ในทุกเครือข่ายไมล์สุดท้าย โดยCloudflare แสดงข้อมูลดังกล่าวรวมทั้งตรวจสอบโดยเปรียบเทียบการเข้าถึง Cloudflare กับการเข้าถึงส่วนตัวของ Zscaler และการเข้าถึงส่วนตัวของ Netskope สำหรับการทดสอบเครือข่ายโดยรวมของเรา Cloudflare อยู่ในอันดับที่ 1 ใน 47% ของเครือข่ายที่มีการรายงานมากที่สุด 3,000 อันดับแรก ส่วนผลการทดสอบความปลอดภัยของแอปพลิเคชันCloudflare เร็วกว่า Zscaler 50% และเร็วกว่า Netskope 75% อีกด้วย
นอกจากนี้ เราจะมาพูดถึงสาเหตุที่ประสิทธิภาพมีความสำคัญต่อผลิตภัณฑ์ของเรา เจาะลึกสิ่งที่เราวัดเพื่อแสดงให้เห็นว่าเราทำงานเร็วขึ้น และเราจะพูดถึงวิธีที่เราวัดประสิทธิภาพในแต่ละผลิตภัณฑ์
ทำไมประสิทธิภาพจึงมีความสำคัญ?
ประสิทธิภาพ ของ Cloudflare Access มีความสำคัญต่อประสบการณ์ของพนักงานและความสามารถในการทำงานให้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงผลิตภัณฑ์บริการที่ผ่านการควบคุมการเข้าถึง , การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสาธารณะผ่าน Secure Web Gateway หรือการรักษาความปลอดภัยเว็บไซต์ภายนอกที่มีความเสี่ยงผ่าน Remote Browser Isolation ประสบการณ์ทั้งหมดเหล่านี้จำเป็นต้องใช้งานอย่างราบรื่น
ยกตัวอย่าง Study case
1. สมมติว่า Bob ที่ Acme Corporation กำลังเชื่อมต่อจาก Johannesburg ไปยัง Slack หรือ Zoom เพื่อทำงานบางอย่างให้สำเร็จ ถ้าหาก Secure Web Gateway ของ Acme ตั้งอยู่ห่างไกลจาก Bob ใน London การรับส่งข้อมูลของ Bob อาจออกจาก Johannesburg ไปยังลอนดอน จากนั้นกลับเข้าสู่ Johannesburg เพื่อเข้าถึงอีเมลของเขา ถ้า Bob พยายามทำการบางอย่าง เช่น การโทรด้วยเสียงบน Slack หรือ Zoom การแสดงผลอาจช้าลง ทั้งการส่งและรับอีเมล ของ Zoom และ Slack แนะนำให้ใช้เวลาแฝงต่ำเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด Bob ฮอปพิเศษนั้นต้องผ่านเกตเวย์ของเขา จึงจะสามารถลดปริมาณงานและเพิ่มเวลาแฝงของเขา ทำให้ Bob ได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดี
ดังนั้นหากผลิตภัณฑ์หรือประสบการณ์เหล่านี้ทำงานล่าช้าจะทำให้บริษัทของคุณตกอยู่ในความเสี่ยง Zero Trust จะไม่มีประสิทธิภาพหากการทำงานช้าและไม่มีคนใช้งาน ซึ่งการดูแลให้ Zero Trust รวดเร็วนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิผลของโซลูชัน Zero Trust
เช่นเดียวกับิ Zscalerb Netskope มีประสิทธิภาพดีกว่าโซลูชันรุ่นเก่าและยังล้าสมัยหลายตัว ซึ่งเครือข่ายของพวกเขานั้นยังไม่สามารถวัดได้กับเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูง
การปรับปรุงประสิทธิภาพอย่าง Cloudflare เราได้ทดสอบผลิตภัณฑ์ Zero Trust ทั้งหมดของเราเทียบกับ Netskope เรานำ Zscaler กลับมาเพื่อแสดงให้คุณเห็นว่า Zscaler เปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์เหล่านั้นอย่างไร และมาเจาะลึกข้อมูแสดงผลให้เห็นว่าเหตุใดเราจึงเร็วกว่าในสถานการณ์ Zero Trust ที่สำคัญ โดยเปรียบเทียบ Cloudflare Access กับ Zscaler Private Access และ Netskope Private Access
การเข้าถึง Cloudflare: proxy Zero Trust ที่เร็วที่สุด
การควบคุมการเข้าถึงจะต้องราบรื่นและง่ายดายสำหรับผู้ใช้โซลูชัน Zero Trust บริการเหล่านี้อนุญาตให้ผู้ใช้แคชรองรับข้อมูลที่ถูกต้องบนเครือข่ายผู้ให้บริการ ทำให้มั่นใจได้ว่าแอปพลิเคชันจะสามารถเข้าถึงได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว ดังนั้นการมีเครือข่ายที่ดีจะช่วยลดจำนวนการเข้าสู่ระบบที่จำเป็นให้เหลือน้อยที่สุดในขณะเดียวกันก็จะช่วยลดเวลาแฝงของคำขอแอปพลิเคชันของคุณจะช่วยให้ประสบการณ์อินเทอร์เน็ตของคุณรวดเร็วและตอบสนองได้
Cloudflare Access ทำทุกอย่างได้เร็วกว่า Netskope ถึง 75% และเร็วกว่า Zscaler ถึง 50% เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลก คุณจะได้รับประสบการณ์การใช้งานอย่างรวดเร็วและปลอดภัย:
เปรียบเทียบการเข้าถึงแอปพลิเคชัน อย่าง Cloudflare , Zscaler และ Netskope จากสถานที่ต่างๆ 300 แห่งทั่วโลกที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์แอปพลิเคชัน 6 แห่งในฮ่องกง โตรอนโต โจฮันเนสเบิร์ก เซาเปาโล ฟีนิกซ์ และสวิตเซอร์แลนด์ ในแต่ละสถานที่เหล่านี้ เวลาตอบสนอง P95 ของ Cloudflare เร็วกว่า Zscaler และ Netskope มาดูข้อมูลเมื่อแอปพลิเคชันโฮสต์อยู่ในโตรอนโต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ Zscaler และ Netskope น่าจะทำได้ดีเนื่องจากอยู่ในภูมิภาคที่เชื่อมต่อถึงกันอย่างมากในอเมริกาเหนือ
Cloudflare มีความโดดเด่นในภูมิภาคที่มีตัวเลือกการเชื่อมต่อได้หลากหลายกว่า เช่น อเมริกาใต้หรือเอเชียแปซิฟิก โดยที่ Zscaler เปรียบเทียบกับ Netskope ได้ดีกว่า Cloudflare:
เมื่อเราดูที่แอปพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์ที่โฮสต์ในอเมริกาใต้ Cloudflare มีความโดดเด่น:
เครือข่ายของ Cloudflare โดดเด่นที่อเมริกาใต้ ทำให้เราเข้าถึงการเชื่อมต่อที่ใกล้ชิดกับผู้ใช้ได้ คุณสามารถดูสิ่งนี้ได้โดยดูเวลาเชื่อมต่อในอเมริกาใต้ได้อีกด้วย:
เครือข่ายของ Cloudflare ทำให้เราแตกต่างเพราะเราสามารถนำผู้ใช้เข้าสู่เครือข่ายของเราได้เร็วขึ้น และค้นหาเส้นทางที่ดีที่สุดทั่วโลกกลับไปยังโฮสต์แอปพลิเคชัน เรามีความเร็วเป็นสองเท่าของ Zscaler และเร็วกว่า Netskope ถึงสามเท่าด้วยพลังพิเศษนี้ จากการทดสอบต่างๆ ทั้งหมด เวลาเชื่อมต่อของ Cloudflare จะเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่องใน Node การทดสอบทั้ง 300 รายการ
เมื่อเราเปรียบเทียบ Cloudflare และ Zscaler สถานการณ์แรกคือเมื่อผู้ใช้เข้าสู่ระบบแอปพลิเคชันของตนและต้องตรวจสอบสิทธิ์ ในกรณีนี้ บริการ Zero Trust Access จะนำผู้ใช้ไปยังหน้าเข้าสู่ระบบ ผู้ใช้จะตรวจสอบสิทธิ์ จากนั้นจึงเปลี่ยนเส้นทางไปยังแอปพลิเคชันของตน
สิ่งนี้เรียกว่าเซสชันใหม่ เนื่องจากไม่มีข้อมูลการรับรองแคชที่ถูกต้องหรือมีอยู่ในเครือข่าย Access ซึ่งในสถานการณ์ที่สองนี้ เรียกว่าเซสชันที่มีอยู่ เมื่อผู้ใช้ได้รับการรับรองข้อมูลความถูกต้องแล้ว จึงสามารถแคชได้ สถานการณ์นี้จะทำให้การใช้งานเร็วขึ้นกว่ามากเดิม เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเรียกผู้ให้บริการดึงข้อมูลประจำตัวเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการ
เราจำเป็นต้องวัดสถานการณ์เหล่านี้แยกกัน เนื่องจากเมื่อเราดูค่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ 95 เรามักจะดูเซสชันใหม่เกือบทุกครั้งหากเรารวมเซสชันใหม่และที่มีอยู่เข้าด้วยกัน ซึ่งในทั้งสองสถานการณ์ Cloudflare จะเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกภูมิภาค ลองย้อนกลับไปดูแอปพลิเคชันที่โฮสต์ในโตรอนโต ซึ่งผู้ใช้ที่เชื่อมต่อกับเราเชื่อมต่อได้เร็วกว่า Zscaler และ Netskope สำหรับทั้งเซสชันใหม่และที่มีอยู่เดิม
คุณจะเห็นว่าโดยทั่วไปเซสชันใหม่จะช้าลงตามที่คาดไว้ แต่เครือข่ายของ Cloudflare และชุดซอฟต์แวร์ที่ได้รับการปรับปรุงให้ประสบการณ์ผู้ใช้ได้รับความรวดเร็วอย่างสม่ำเสมอของการเชื่อมต่อตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางที่อาจจะมีความท้าทายมากขึ้น ทำให้Cloudflare มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เรามาดูผู้ใช้ในเอเชียที่เชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชันในฮ่องกงกัน
สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งที่โดดเด่นที่นี่คือ ถึงแม้ว่าเครือข่ายของ Cloudflare ได้รับการปรับให้เหมาะสมที่สุดเพื่อประสิทธิภาพ แต่ Zscaler ก็เปรียบเทียบประสิทธิภาพกับ Netskope ได้ผลใกล้เคียงมากกว่าเมื่อเทียบกับ Cloudflare ซึ่งNetskope ยังทำงานได้ไม่ดีในเซสชันใหม่ บ่งชี้ให้เห็นว่าบริการของพวกเขาตอบสนองได้ไม่ดีนักเมื่อผู้ใช้สร้างเซสชันใหม่
เราต้องการแยกเซสชันใหม่และที่มีอยู่เหล่านี้ เนื่องจากสิ่งสำคัญคือต้องดูเส้นทางคำขอที่คล้ายกันเพื่อทำการเปรียบเทียบให้เหมาะสม ตัวอย่างเช่น หากเรากำลังเปรียบเทียบคำขอผ่าน Zscaler ในเซสชันที่มีอยู่กับคำขอผ่าน Cloudflare ในเซสชันใหม่ เราจะเห็นว่า Cloudflare ช้ากว่า Zscaler มากเนื่องจากจำเป็นต้องตรวจสอบสิทธิ์ ดังนั้นเมื่อเราจ้างบุคคลที่สามให้ออกแบบการทดสอบเหล่านี้ เราจึงทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะคำนึงถึงเรื่องนั้นด้วย
สำหรับการทดสอบเหล่านี้ Cloudflare ได้กำหนดค่าอินสแตนซ์แอปพลิเคชัน 5 อินสแตนซ์ที่โฮสต์ใน โตรอนโต ลอสแองเจลิส เซาเปาโล และฮ่องกง จากนั้น Cloudflare ใช้โหนด Catchpoint 300 โหนดจากทั่วโลกเพื่อเลียนแบบการเข้าสู่ระบบของเบราว์เซอร์ดังนี้:
- ผู้ใช้เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันจากเบราว์เซอร์ที่เลียนแบบโดยอินสแตนซ์ Catchpoint - เซสชันใหม่
- ผู้ใช้รับรองความถูกต้องกับผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัวของตน
- ผู้ใช้เข้าถึงทรัพยากร
- ผู้ใช้รีเฟรชหน้าเบราว์เซอร์และพยายามเข้าถึงทรัพยากรเดียวกัน แต่มีข้อมูลรับรองอยู่แล้ว - เซสชันที่มีอยู่
สิ่งนี้สามารถช่วยให้ พิจารณา Cloudflare เทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันสำหรับทั้งเซสชันใหม่และที่มีอยู่ และ Cloudflare แสดงผลให้เห็นว่าเร็วขึ้นจากเครือข่ายของ Cloudflare ที่ใกล้ชิดกับผู้ใช้ของเรา โดยเราจะมาพูดถึงการเปรียบเทียบของเรากับเครือข่ายขนาดใหญ่อื่นๆ และ Cloudflare ใกล้ชิดกับคุณอย่างไร
เอฟเฟกต์เครือข่ายทำให้ประสบการณ์ผู้ใช้ดียิ่งขึ้น
การเข้าใกล้ผู้ใช้มากขึ้นจะช่วยปรับปรุง Round Trip Time (RTT) ไมล์สุดท้าย ดังที่เราได้กล่าวไว้ในการเปรียบเทียบการเข้าถึง การมี RTT ต่ำจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของลูกค้า เนื่องจากเซสชันใหม่และเซสชันที่มีอยู่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลมาก เพื่อไปยังเครือข่าย Zero Trust ของ Cloudflare การฝังตัวในเครือข่ายระยะทางสุดท้ายเหล่านี้ช่วยให้Cloudflareใกล้ชิดกับผู้ใช้ของเรามากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้ประสิทธิภาพของ Zero Trust เท่านั้น แต่ยังช่วยประสิทธิภาพของเว็บและประสิทธิภาพของนักพัฒนาดังที่เราได้กล่าวไว้ในบล็อกก่อนหน้านี้
ในการวัดประสิทธิภาพของเครือข่าย เราต้องได้รับข้อมูลที่เพียงพอจากทั่วโลก ทั่วทั้งเครือข่ายทุกประเภท โดยเปรียบเทียบตัวเรากับผู้ให้บริการรายอื่น เราใช้ Real User Measurings (RUM) เพื่อดึงไฟล์ขนาด 100kb จากผู้ให้บริการหลายราย ผู้ใช้ทั่วโลกรายงานประสิทธิภาพของผู้ให้บริการต่างๆ ยิ่งมีผู้ใช้รายงานข้อมูลมากเท่าใด สัญญาณก็จะยิ่งมีความเสถียรมากขึ้นเท่านั้น เป้าหมายคือการให้ภาพที่แม่นยำว่าผู้ให้บริการแต่ละรายเร็วกว่าจุดใด และที่สำคัญกว่านั้นคือจุดที่ Cloudflare สามารถปรับปรุงได้
เรากำลังดำเนินการตามกระบวนการอย่างต่อเนื่องเพื่อค้นหาว่าเหตุใดเราจึงช้า — แล้วทำการปรับปรุง ซึ่งความท้าทายที่เราเผชิญนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละเครือข่าย และเน้นย้ำถึงปัญหาต่างๆ มากมายที่แพร่หลายบนอินเทอร์เน็ต
นี่คือผลลัพธ์ของการพัฒนา ปี 2022 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่เราแสดงตัวเลขเหล่านี้ จากเครือข่าย 3,000 อันดับแรกของโลก (ตามจำนวนที่อยู่ IPv4 ที่โฆษณา) และแสดงผลรายละเอียดจำนวนเครือข่ายที่ผู้ให้บริการแต่ละรายเป็นอันดับหนึ่งในเวลาการเชื่อมต่อ TCP p95 ซึ่งแสดงถึงเวลาที่ผู้ใช้ใช้บนเครือข่ายที่กำหนด และเครือข่ายเพื่อเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ:
อย่างไรก็ตามสิ่งที่คุณเห็นนั้น Cloudflare ได้ขยายความเป็นผู้นำในด้านความเร็วในเครือข่ายที่มากขึ้น ในขณะที่เครือข่ายอื่นๆ ที่ก่อนหน้านี้เร็วกว่า เช่น Akamai มีลักษณะดังนี้:
Cloudflare ได้เติบโตเร็วขึ้นในบราซิล และอีกหลายประเทศในแอฟริกา แอฟริกาใต้ เอธิโอเปีย และไนจีเรีย รวมถึงอินโดนีเซียในเอเชีย และนอร์เวย์ สวีเดน และสหราชอาณาจักรในยุโรป
ประเทศเหล่านี้จำนวนมากได้รับผลประโยชน์จาก Edge Partner Program: โปรแกรมพันธมิตร Edge สนับสนุนให้ ISP ระยะสุดท้ายร่วมมือกับ Cloudflare เพื่อปรับใช้ตำแหน่ง Cloudflare ที่ฝังอยู่ใน ISP ระยะสุดท้าย สิ่งเหล่านี้ช่วยปรับปรุง RTT ไมล์สุดท้ายและปรับปรุงประสิทธิภาพสำหรับสิ่งต่าง ๆ เช่น Access นับตั้งแต่ที่เราแสดงแผนที่นี้ให้คุณดูครั้งล่าสุด
Cloudflare ได้ปรับใช้สถานที่ตั้งของพันธมิตรมากขึ้นในสถานที่ต่างๆ เช่น ไนจีเรีย และซาอุดีอาระเบีย ซึ่งได้ปรับปรุงประสิทธิภาพสำหรับผู้ใช้ในทุกสถานการณ์ เช่น Edge Partner Program ช่วยปรับปรุงไม่เพียงแต่สถานการณ์ Zero Trust แต่ยังช่วยปรับปรุงประสบการณ์การท่องเว็บทั่วไปสำหรับผู้ใช้ปลายทางให้ได้รับการคุ้มครองโดย Cloudflare อีกด้วย
ประสิทธิภาพยุคใหม่ในโลก Zero Trust
ในโลกที่ไม่ใช้ Zero Trust แม้ว่าการควบคุมจะสะดวก แต่ก็สร้างปัญหาใหญ่ให้กับทีมไอทีของคุณที่ต้องจัดการการเชื่อมต่อระหว่างทางสำนักงานและทรัพยากร แต่ในโลกของ Zero Trust นั้น เครือข่ายของคุณตอนนี้... คืออินเทอร์เน็ตสาธารณะ ซึ่งหมายความว่า ช่วยให้ทำงานน้อยลง เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับผู้ใช้ความรับผิดชอบมากขึ้นกับผู้ให้บริการ Zero Trust ของคุณ ยิ่งผู้ให้บริการ Zero Trust ของคุณปรับปรุงประสิทธิภาพแบบ end-to-end ได้ดีเพียงใด ผู้ใช้ของคุณก็จะยิ่งได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นในการเข้าถึงเว็บไซต์และมีความเสี่ยงน้อยลงเท่านั้น สำหรับแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ เช่น การตรวจสอบสิทธิ์และเกตเวย์เว็บที่ปลอดภัยที่เป็นสิ่งสำคัญของการใช้งาน
ผู้ให้บริการ Zero Trust ไม่เพียงแต่ต้องรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ของคุณบนอินเทอร์เน็ตสาธารณะเท่านั้น แต่ยังต้องเพิ่มประสิทธิภาพอินเทอร์เน็ตสาธารณะด้วยเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้ของคุณจะได้รับการปกป้องอย่างต่อเนื่อง การย้ายสู่ Zero Trust ยังช่วยให้การรับส่งข้อมูลของผู้ใช้ได้รับข้อมูลอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้ให้บริการ Zero Trust ของคุณจะเป็นผู้เฝ้าประตูสำหรับผู้ใช้ทั้งหมดของคุณและแอปพลิเคชันทั้งหมดของคุณ ประสิทธิภาพจึงเป็นส่วนสำคัญในการประเมินผล เพื่อลดล่าช้าสำหรับผู้ใช้ของคุณ และลดโอกาสที่ผู้ใช้จะบ่น หรือเปลี่ยน ปิดโซลูชันแล้ว
Cloudflare ยังคงปรับปรุงเครือข่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดเสมอผ่านโปรแกรมต่างๆ เช่นEdge Partner Programและปรับปรุงการเชื่อมต่อแบบเพียร์และการเชื่อมต่อระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Cloudflare เป็นผู้ให้บริการ Zero Trust ที่เร็วที่สุด