Cloudflare ที่ได้เข้าสู่ตลาด Object Storage Service แบบเต็มตัวชนกับผู้ให้บริการรายอื่น โดยใช้ชื่อว่า R2
R2 ถือเป็นอีกโซลูชันที่กำเนิดขึ้นมาจากความต้องการใช้งานกันภายใน และค่อยผลักดันออกมาสู่โลกภายนอกเหมือนผลิตภัณฑ์อื่นของ Cloudflare มาดูรายละเอียดสำคัญของ R2 กันดีกว่าว่าไอเดียเป็นอย่างไร
1.) Really Requestable
Cloudflare ได้หยิบยก Pain Point ของนักพัฒนามาชี้ให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายที่ทุกวันนี้ผู้ใช้งาน Object Storage เผชิญอยู่ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ Bandwidth, Storage Size และ Storage Operation ซึ่งตัวปัญหาใหญ่ที่สุดของค่าใช้จ่ายคือเรื่องของ Egress Bandwidth แถมยังไม่สามารถทำนายการใช้ได้เสียด้วย ดังนั้น R2 ภายในภาคีของ Bandwidth Alliance ที่ว่าด้วยเรื่องของการลดค่าใช้จ่ายในการถ่ายโอนข้อมูล จะพยายามคิดค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุด เพราะโดยทั่วไปแล้วบริการปกติฟรีเข้าแต่คิดเงินเมื่อนำข้อมูลออก(แพงด้วย) แต่ราคาของที่ Cloudflare ตั้งไว้จะอยู่ที่เพียง 0.015 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อกิกะไบต์ต่อการเก็บข้อมูลต่อเดือนซึ่งถูกกว่าบริการจากรายใหญ่
อีกมุมหนึ่งคือเรื่องของความถี่ในการ Request ซึ่ง Cloudflare มองว่าไม่แฟร์หากจะคิดราคาของการ Request บ่อยๆแล้วให้ส่วนลด หรือผู้ใช้ที่มี Request ต่ำด้วยราคาเท่ากัน แต่เป็นเรื่องที่ผู้ให้บริการควรจัดการเองได้เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ และลดภาระการคอนฟิค Tiering ต่างๆอันซับซ้อน รวมถึงภาระเหล่านี้ยังสกัดกันความสามารถในการ Scaling ใช้งานในปริมาณมากๆด้วย โดยเบื้องหลังของ R2 ทีมงานได้มีการบริหารจัดการ Tiering ให้อย่างชาญฉลาดและอัตโนมัติเพื่อรองรับกับการใช้งานไม่ว่าจะใช้บ่อยหรือใช้บ้างก็ไม่ตกเป็นภาระของนักพัฒนา
credit : Cloudflare
2.) Repositioning Records
แม้บริการส่วนใหญ่จะรองรับ S3 API (R2 ก็รองรับ) แต่ปัญหาคือการเปลี่ยนเครื่องมือทำให้เกิด Cost และข้อผิดพลาดขึ้นได้ ดังนั้นสิ่งที่ R2 ทำได้คือความสามารถในการโอนย้ายข้อมูลจาก S3 ตัวอื่นมาให้อัตโนมัติ และสามารถกระจายไปในหลากหลาย Region โดยเฉพาะ Region ที่เหมาะกับผู้ใช้
3.) Ridiculously Reliable
รองรับเรื่อง Reliability ได้เทียบเท่ากับ Public Cloud เจ้าใหญ่ หรือ 99.999999999% และ R2 ยังถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อการพังทลายในระดับ Region เพราะมีการทำ Redundancy ข้าม Region
4.) Radically Reprogrammable
R2 สามารถ integrate เข้ากับ Cloudflare Workers serverless runtime ที่ช่วยให้การทำ Data pipeline หรือการเล่นกับข้อมูลนั้นง่ายขึ้น รวมถึงยังมีแผนที่จะเปิดการคอนฟิค Durable Object เพื่อใช้ R2 เป็นจุด Backup แม้กระทั่งการทำงานร่วมกับ Cloudflare Cache
สำหรับผู้สนใจต้องลงทะเบียนไว้ก่อน เนื่องจากว่ายังไม่ Open Beta แต่รูปแบบการใช้งาน Cloudflare ได้หยิบยกไอเดียบางส่วนว่า R2 นั้นเหมาะกับการใช้งานทั้งเก็บข้อมูลจาก IoT ซึ่งด้วยความที่มีค่าใช้จ่ายถูกในการโอนถ่ายข้อมูล ดังนั้นท่านจะสามารถย้ายข้อมูลข้ามไปหา Database หรือ Analytics ของท่านได้อย่างสบายใจ หรือจะใช้เป็น CDN เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ อย่างไรก็ดี R2 ได้ทลายข้อจำกัดไม่ว่าท่านจะใช้บ่อยหรือใช้บ้าง ทั้งนี้ทีมงานยังมีไอเดียต่อยอดกับ R2 อีกมาก ซึ่ง CEO ก็ออกตัวว่าสามารถชนกับผู้ให้บริการคลาวด์ตัวหลักในอนาคต